HAH – ท่าเรือฮอยอัน PE 3 เท่า
Hai An Transport and Stevedoring JSC (HAH)
อีกหนึ่งในบริษัทท่าเรือที่ได้รับผลกระทบโปรเจคของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ Bach Dang และการสร้างท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ของเวียดนามที่ชื่อ Lach Huyen
ปี 2010-2015, HAH มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 50% และมีกำไรขึ้นต้นสูงกว่า 40%
แต่พอมีโปรเจคสร้างสะพาน Bach Dang ขึ้นมา HAH ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สะพาน Bach Dang ทำให้ท่าเรือ Hai An ของ HAH กลายเป็นตำแหน่งที่แย่ เรือส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าจอดได้
ในปี 2016 ขณะที่ยังสร้างสะพานไม่เสร็จ ปริมาณ cargo ที่ใช้บริการ HAH ก็ลดลงแล้ว 30% เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่ลดลงในอัตราที่เท่ากัน
HAH ได้พยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยเปลี่ยน position ของตัวเองเป็น inland water transport ขนส่งทางแม่น้ำ เน้นลูกค้า domestic แทนที่จะเป็น sea transport ที่เป็นลูกค้าต่างชาติ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง และการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง เพราะท่าเรืออื่นที่ได้รับผลกระทบจากสะพาน ก็ดิ้นรนหนีตายด้วยเช่นกัน
นอกจากเป็นเจ้าของท่าเรือ Hai An แล้ว HAH ยังเป็นเจ้าของเรือขนส่งอีก3 ลำ เพื่อให้บริการ inland water transport กับ domestic cargo โดยที่ผู้บริหารหวังว่าจะมาช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท
ความพยายามของ HAH ดูเหมือนจะเป็นผล?
ปี 2017 รายได้เพิ่มขึ้นถึง 60% แต่กำไรบรรทัดสุดท้ายเพิ่ม 10% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 26% (จากเดิม 40%)
แต่วิบากกรรมของ HAH ยังไม่จบ
ท่าเรือ Lach Huyen ที่ใหม่กว่า ใหญ่กว่า และทำเลดีกว่า กำลังจะเปิดให้บริการในปี 2019 และเป็นที่คาดกันว่า Lach Huyen จะกินส่วนแบ่งตลาดของ Hai Phong ถึง 65% ภายในปี 2030
ประกอบกับ เมื่อต้นปี 2018 บริษัทโลจิสติกที่ชื่อ Transimax (TMS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ HAH ที่ 20% ได้ถอนการลงทุน และขายหุ้นHAH ออกมาในตลาด ทำให้ราคาหุ้นลดลงเกือบ ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ HAH คือกองทุนที่ชื่อ Samarang Capital โดยถือหุ้นอยู่ 9.8%
Valuation ถูก แต่ ?
เมื่อมองในด้าน valuation, HAH เป็นหุ้นที่ถูกมาก คือมี PE 3-4 เท่าซึ่งเป็นที่เย้ายวนใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ชอบของถูก แต่ความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นตัวนี้คือ
- อนาคตที่ไม่สดใส เพราะกำลังจะมีคู่แข่งที่ใหญ่กว่า และดีกว่า (ท่าเรือ Lach Huyen) มาแย่งตลาด
- แนวโน้มรายได้ของ HAH จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ถ้า HAH ไม่มีการลงทุนใหม่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่แผนการณ์ใดๆออกมา
- หากน้ำมันมีราคาสูงขึ้น กำไรจะลดลงอีก เพราะ HAH มีรายได้ครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจเดินเรือ
- เนื่องจากเป็นหุ้นขนาดเล็ก (market cap เพียง 670 ล้านบาท) ทำให้มีบทวิเคราะห์ภาษาอังกฤษน้อยมาก ยากที่จะติดตามข่าวสาร
จะว่าไปแล้วหุ้นอีกตัวอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ HAH ก็คือ VSC จะต่างกันตรงที่ VSC นั้น มีท่าเรือใหม่, VIP Green, ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาช่วยพยุงรายได้ ซึ่งนี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมตลาดให้ PE ของ VSC 8 เท่า และ HAH ที่ 3-4 เท่า
เดือนมิถุนายน 2018 HAH มีมูลค่าตลาด = 475 พันล้าน ดอง (เท่ากับ 670 ล้านบาท)